MINI F56 กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 18 พ.ย. ที่จะถึงนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของ MINI ในเจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแพลทฟอร์มครั้งใหญ่ของ MINI โดยข้อมูลล่าสุด จากผู้บริหารของ BMW Group ระบุว่า MINI ในเจเนอเรชั่นที่ 3 นี้ อาจมีมากถึง 10 โมเดล
ปัจจุบัน MINI ในเจเนอเรชั่นที่ 2 ถูกแบ่งออกเป็นโมเดลต่างๆ แล้ว 7 โมเดล ประกอบด้วย MINI Hatch (R56), MINI Clubman (R55), MINI Convertible (R57), MINI Coupe (R58), MINI Roadster (R59), MINI Countryman (R60) และ MINI Paceman (R61) โดยในวันที่ 18 พ.ย. ที่จะถึงนี้ MINI จะทำการเปิดตัว MINI Hatch โฉมใหม่ ในรหัส F56 ถือเป็น MINI ในเจเนอเรชั่นที่ 3 ตัวแรก
Peter Schwarzenbauer ผู้บริหารของ BMW Group ที่ดูแลแบรนด์ MINI ให้สัมภาษณ์กับ Automotive News Europe ถึงเรื่อง MINI เจเนอเรชั่นใหม่โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
– อาจมีจำนวนโมเดล MINI อยู่ระหว่าง 8-10 โมเดล
– ณ เวลานี้ MINI ทั้ง 7 โมเดลในปัจจุบัน เป็นไปได้ว่า อาจจะยังคงอยู่เหมือนเดิม หรือ อาจจะมีการยกเลิกบางโมเดลเพื่อทดแทนด้วยไอเดียใหม่ไปเลยก็ได้
– MINI กำลังจะเปิดโรงงานใหม่ที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงขึ้น และอาจเริ่มด้วยการผลิต F56 เป็นโมเดลแรก
– โรงงานใหม่ที่เนเธอร์แลนด์ จะเป็นโรงงานเต็มรูปแบบ (ไม่ใช่ CKD) โดยจะมีทั้ง press-shop, paint-shop และสายการประกอบ ซึ่งเครื่องยนต์จะถูกผลิตจากที่อื่น
– ปีที่แล้ว MINI มีการประกอบและขายไปทั้งสิ้นกว่า 3 แสนคัน และ MINI วางแผนจะขยายกำลังการผลิตให้สูงขึ้นกว่านี้อีกมาก โดยผู้บริหารปฏิเสธที่จะตอบตัวเลขของกำลังการผลิตรวมหลังการเปิดโรงงานที่เนเธอร์แลนด์
– จะมีรถยนต์ไฮบริดสำหรับ MINI แน่นอน รวมถึง plug-in hybrid ด้วย และกำลังศึกษาการทำรถยนต์ไฟฟ้า 100% สำหรับแบรนด์ MINI
– ปัจจบันสัดส่วน MINI เครื่องยนต์ดีเซลในยุโรปอยู่ที่ 41% เมื่อเทียบกับ MINI ทั้งหมด แต่สเกลของตลาดโลก MINI เครื่องยนต์เซลอยู่ที่ 24% ที่เหลือเป็น MINI เครื่องยนต์เบนซิน
MINI F56 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ที่โรงงาน Oxford Plant ประเทศอังกฤษ