MINI เฉลิมฉลองงานโชว์รถคลาสสิค Concorso d’Eleganza Villa d’Este 2014 ด้วยการเปิดตัวรถยนต์คอนเซปต์ใหม่หมดจดในชื่อ MINI Superleggera™ Vision ซึ่งเป็นรถสปอร์ตสองที่นั่ง แบบไม่มีหลังคา ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง MINI กับ Touring Superleggera แห่งกรุงมิลาน
MINI Superleggera™ Vision เป็นรถยนต์คอนเซปต์ที่ผสมผสานกันระหว่างความเป็นรถสปอร์ตคลาสสิค โรดสเตอร์ สองที่นั่งไม่มีหลังคา กับเทคโนโลยีของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่ทำให้ภาพรวมของรถยนต์คันนี้ดูร่วมสมัย มีความคลาสสิคในตัวมันเอง ตัวถัง Superleggera แบบอิตาเลียน และยังมีมุมมองของความล้ำยุค การออกแบบด้วยภาษาของ MINI ที่มีเสน่ห์อย่างยิ่ง
Adrian van Hooydonk รองประธานอาวุโสของ BMW Group Design กล่าวว่า MINI และ Touring Superleggera เป็นบริษัทที่มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของประวัติศาสตร์รถยนต์ที่มีมาอย่างยาวนาน และยังคงได้การยอมรับถึงดีไซน์ที่มีความโดดเด่นมาจนถึงปัจจุบัน การออกแบบรถยนต์ MINI Superleggera™ Vision ร่วมกันครั้งนี้ เปรียบเสมือนการสร้างรถยนต์โรดสเตอร์สัญชาติอังกฤษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ของอิตาเลียน ประกอบการศิลปะการประกอบด้วยมือ ที่สร้างสรรค์อีกหนึ่งสุดยอดงานออกแบบรถยนต์รุ่นหนึ่งของโลก
การออกแบบภายนอกของ MINI Superleggera™ Vision ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถมินิคลาสสิคเมื่อ 55 ปีที่แล้ว ที่ใช้หลักการของความเป็น minimalism ผสมผสานกับการใช้เส้นสายแบบไดนามิก ซึ่งทำให้รถยนต์คอนเซปต์คันนี้มีความร่วมสมัย ที่บริเวณด้านหน้าของตัวรถ ยังคงใช้ไฟหน้ารูปทรงกลมแบบ MINI เจเนอเรชั่นปัจจุบัน กับกระจังหน้ารูปทรงหกเหลี่ยม ส่วนบนฝากระโปรงที่ทาง MINI ต้องการให้มีลวดลายของ bonnet stripes นั้น แทนที่จะใช้สติ๊กเกอร์แบบที่เราคุ้นเคยกัน กลับใช้มิติของฝากระโปรงแทน ทำให้เราได้เห็น bonnet stripes ในรูปแบบของสามมิติเป็นครั้งแรก
ภายในกระจังหน้ารูปทรงหกเหลี่ยม ถูกออกแบบลวดลายเป็นเส้นแนวนอน ให้อารมณ์คลาสสิค ร่วมกับไฟตัดหมอกวงกลมสองดวง และช่องดักอากาศรูปวงกลมเช่นกัน ทำให้เกิดความลงตัวและยังเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็น MINI ได้อย่างชัดเจน
เส้นสายต่างๆ บนตัวถังรถยนต์ เป็นแรงบันดาลใจจาก Touring Superleggera บริษัทออกแบบชื่อดังของมิลาน ประเทศอิตาลี ที่ร่วมกันออกแบบรถยนต์คอนเซปต์คันนี้ โดยใช้ประสบการณ์ตรงในการออกแบบรถยนต์มาอย่างยาวนาน ทั้งการใช้ประโยชน์ของตัวถังอะลูมิเนียม น้ำหนักเบา และการใช้ฝีมือมนุษย์ในการขึ้นรูปและจัดวางเส้นสายต่างๆ ที่แม้แต่เครื่องจักรก็ไม่สามารถทดแทนได้
Louis de Fabribeckers หัวหน้าทีมออกแบบของ Touring Superleggera กล่าวว่า MINI และ Touring Superleggera มีความภูมิใจในผลงานของรถยนต์คันนี้มาก โดยเราได้ยึดถือเอาความสวยงาม และแชร์ประสบการณ์ของนวัตกรรมซึ่งกันและกัน มีการตัดเอาอุปกรณ์ตกแต่งที่ไม่จำเป็นออกไปทั้งหมด เพื่อความเรียบง่าย น้ำหนักเบา และให้เกิดความลงตัวที่สุดกับรถยนต์คันนี้
หากสังเกตตัวถังของรถยนต์ MINI Superleggera™ Vision คันนี้ จะพบว่ามีช่องว่างระหว่างรอยต่อของตัวถังชิ้นต่างๆ น้อยมาก จากการที่ใช้แผ่นอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ในการขึ้นรูป ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ปราณีตที่สุดชิ้นหนึ่งในบรรดารถยนต์คอนเซปต์ต่างๆ ที่ออกมาในปัจจุบัน
ภายในของตัวรถก็ไม่แพ้กัน มีการใช้ประโยชน์จากแผ่นอะลูมิเนียมที่ไม่ผ่านขั้นตอนการขัด โดยเฉพาะในส่วนของคอนโซลที่มีการใช้แผ่นอลูมิเนียมขนาดใหญ่เพียงแผ่นเดียว ซึ่งต้องการฝีมืออย่างมากในการทำ รวมถึงการออกแบบภายในยุคใหม่ทั้งหมด ให้เกิดความรู้สึกทัยสมัย ม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยสามก้าน เบาะที่นั่ง และปุ่มบนคอนโซลต่างๆ นอกจากนี้ MINI Superleggera™ Vision ยังสะท้อนความเป็นสัญชาติอังกฤษของ MINI ด้วยการใช้ลวดลายของธง Union Jack บริเวณกรอบประตูของตัวรถ ตลอดไปจนถึงไฟท้ายของตัวรถที่เป็นลวดลายของธง Union Jack เช่นกัน
ปัจจุบัน MINI Superleggera™ Vision ยังคงเป็นเพียงรถยนต์คอนเซปต์เท่านั้น และยังไม่มีแผนในการผลิตเพื่อจำหน่ายจริงแต่อย่างใด