MINI เปิดเผยแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ โดยยึดตามคอนเซ็ปต์ Power of Choice ของ BMW Group ที่จะให้ทางเลือกกับลูกค้า ที่จะเลือกได้อย่างอิสระในแต่ละตัวถัง ที่จะมีครบทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซิน ดีเซล หรือพลังงานไฟฟ้า โดยตั้งใจจะขยายตลาดมินิพลังงานไฟฟ้า 100% เพิ่มเติมอีกหลายโมเดล หลังจากประสบความสำเร็จกับ MINI Cooper SE มินิแฮตช์ 3 ประตูพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์
Bernd Körber หัวเรือของ MINI ได้เปิดเผยเนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีในการทำตลาดแบรนด์ MINI ภายใต้หลังคาเดียวกับ BMW Group ว่าแบรนด์ MINI กำลังดำเนินตามทิศทางเดียวกับ BMW ที่จะให้ทางเลือกของขุมพลังในรถ MINI แต่ละโฉมตัวถัง หรือ Power of Choice เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนทั่วทุกมุมโลก
Bernd ได้เปิดเผยว่า MINI พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นถัดไป จะเป็น “a new crossover model in the small-car segment” และ “a compact crossover model” ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็น MINI เจเนอเรชั่นใหม่ ที่เป็นโฉม Hatch 5 ประตูแบบยกสูง และ MINI Countryman โฉมใหม่
มินิพลังงานไฟฟ้า และ มินิเจเนอเรชั่นใหม่ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2022 และจำหน่ายในตลาดโลกในปี 2023 ที่จะได้โรงงานของ Great Wall Motors ช่วยเหลือในส่วนของกำลังการผลิตมินิพลังงานไฟฟ้า ตามที่ BMW Group ได้ทำสัญญาร่วมกับทาง GWM เอาไว้
ที่น่าสนใจคือ ตลาดรถสมรรถนะสูง อย่าง John Cooper Works ก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน Bernd Körber เปิดเผยว่า แบรนด์ MINI JCW ในอนาคต จะเป็นพลังงานไฟฟ้า 100% เช่นกัน ที่ถึงแม้ว่า MINI JCW ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปจะยังมีความต้องการ แต่ท้ายที่สุดแล้ว แบรนด์ JCW จะเป็นแบรนด์มินิสมรรถนะสูงที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% และแบรนด์ MINI ก็เหมาะมากที่จะมาในทิศทางนี้
