2 ทศวรรษเต็มๆ แล้ว ที่แบรนด์ MINI ได้มาอยู่ใต้หลังคาเดียวกับ BMW Group นับตั้งแต่รถ MINI โฉมใหม่เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 26 เม.ย. 2001 ที่โรงงาน Oxford นับถึงปัจจุบัน มีรถ MINI ใหม่โลดแล่นอยู่บนนท้องถนนทั่วโลกมาแล้วมากกว่า 5 ล้านคัน
กำลังการผลิตที่สำคัญของแบรนด์ MINI ภายใต้หลังคา BMW Group อยู่ที่โรงงาน Oxford ประเทศอังกฤษ ที่เป็นโรงงานเก่าแก่มานานถึง 108 ปี และยังเป็นสถานที่สำคัญที่ให้แฟนๆ มินิทั่วโลกได้เข้าไปเยี่ยมชมสายการผลิตมาแล้วมากกว่า 26,000 คนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยปัจจุบันโรงงาน Oxford มีพนักงาน 4,500 คน ที่มีกำลังการผลิตรถ MINI ได้มากถึงวันละ 1,000 คัน หรือเรียกได้ว่า ทุกๆ 67 วินาที จะผลิตรถ MINI ได้ 1 คัน เติบโตจากวันแรกที่ BMW Group ได้เข้ามาครอบครองแบรนด์หลายเท่าตัว
ในปี 2020 โรงงาน Oxford ได้ก้าวเข้าสู่การผลิต MINI พลังงานแห่งอนาคต ด้วยการผลิต MINI Cooper SE รถมินิพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกเข้าสู่ตลาด และ BMW Group ได้ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่า แบรนด์ MINI จะเป็นแบรนด์แรกของ BMW Group ที่จะเป็นแบรนด์รถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ภายในช่วงต้นทศวรรษที่ 2030 ที่จะถึงนี้
เรามาย้อนดูความสำเร็จ 20 ปี ที่ผ่านมาของแบรนด์ MINI กันครับ
26 เม.ย. 2001 | เริ่มการผลิตรถ MINI โฉมใหม่ ภายใต้ BMW Group เป็นครั้งแรก |
2002 | เพียง 13 เดือน หลังจากเปิดตัว มีการผลิตครบ 100,000 คัน ที่โรงงาน Oxford |
2004 | BMW Group ประกาศลงทุน 40 ล้านปอนด์ ที่โรงงาน Swindon เปิดตัว MINI Convertible เป็นครั้งแรก (R52) |
2006 | โรงงาน Hams Hall ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตรถ MINI ด้วยการเป็นโรงงานในการผลิตเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ของตัวรถ ทำให้ MINI มาจากโรงงานในการผลิตชิ้นส่วนหลัก 3 โรงงานในอังกฤษ คือ Oxford, Swindon และ Hams Hall ที่เรียกว่าเป็นสามเหลี่ยมของการผลิต หรือ British MINI production triangle เปิดตัว MINI Cooper S with John Cooper Works GP Kit |
2007 | โรงงาน MINI Plant Oxford เริ่มใช้เทคโนโลยีการพ่นสีสมัยใหม่ และเป็นโรงงานแรกของ BMW Group ที่ใช้ IPP (Integrated Paint Process) ช่วยลดพลังงานในการพ่นสี และลดมลพิษที่เกิดขึ้นได้มากกว่า 10% ของขั้นตอนการพ่นสีทั้งหมด |
2008 | เปิดตัว MINI Clubman เป็นครั้งแรก (R55) |
2009 | เริ่มการทดลองผลิต MINI E รุ่นทดสอบ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอังกฤษ เพื่อเป็นต้นแบบของรถ MINI พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ได้เปิดตัวในปัจจุบัน |
2010 | เปิดตัว MINI Countryman เป็นครั้งแรก (R60) |
2011 | เปิดตัว MINI Coupé (R58) |
2012 | เปิดตัว MINI Roadster (R59) |
2013 | เปิดตัว MINI Paceman (R61) |
2014 | เปิดตัว MINI 5-door (F55) ติดตั้งหลังคาโซลาร์บนโรงงาน MINI Plant Oxford จำนวน 11,500 พาเนล ครอบคลุมพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า 3 ล้านวัตต์ หรือเทียบเท่า 850 ครัวเรือน และเป็นหนึ่งในแผงโซลาร์ติดหลังคาที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ |
2015 | เปิดตัว MINI John Cooper Works GP (R56) |
2016 | เปิดตัว MINI Convertible (F57) |
2017 | เปิดตัว MINI Countryman (F60) |
2019 | โรงงาน MINI plant in Oxford ผลิตมินิคันที่ 10,000,000 เปิดตัว MINI John Cooper Works GP (F56) และ MINI Cooper SE พลังงานไฟฟ้า 100% |
ม.ค. 2020 | เริ่มสายการผลิต MINI Cooper SE โดยภายในปี 2020 สามารถส่งมอบ MINI Cooper SE ให้ลูกค้าได้มากถึง 17,580 คัน |
ต.ค. 2020 | MINI เปิดเผยแผนการขยายกำลังการผลิต ไปยังประเทศจีน โดยจะเริ่มผลิตรถ Crossover ใหม่ ในปี 2023 |
มี.ค. 2021 | MINI ยืนยัน จะเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้น้ำมันรุ่นสุดท้าย ในปี 2025 และจะกลายเป็นแบรนด์ไฟฟ้าล้วนภายในช่วงต้นทศวรรษที่ 2030 |