BMW ประกาศลงทุนเปิด Additive Manufacturing Campus เพื่อเน้นพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนที่ขึ้นรูปจากเทคโนโลยี 3D Printing โดยเฉพาะ ด้วยเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 10 ล้านยูโร หรือกว่า 386 ล้านบาท รองรับการขยายตัวของชิ้นส่วนที่สามารถปรับได้ตามคำสั่งลูกค้า เช่นโปรแกรม MINI Yours Customization
ศูนย์ Additive Manufacturing Campus ของ BMW Group ตั้งอยู่ที่ Oberschleissheim ตอนเหนือของนครมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยล่าสุด MINI ในโฉม Hatch รุ่นปรับปรุงใหม่ (LCI) ได้เปิดชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งบางชิ้น ให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อตามแบบของตนเองได้ เช่น ใช้โลโก้ของตนเอง หรือลวดลายของตัวเอง หรือชื่อตัวเอง จึงมีความต้องการในการใช้กำลังการผลิต 3D Printing มากขึ้น
นอกจากนี้ ศูนย์ Additive Manufacturing Campus ยังเป็นศูนย์วิจัย เพื่อขึ้นโครงสร้างของชิ้นส่วนรถยนต์ส่วนอื่นๆ ใน BMW Group ด้วย เช่น BMW i8 Roadster เป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยี 3D Printing ขึ้นรูปด้วยอะลูมิเนียมอัลลอย มาทำเป็นชิ้นส่วนของรถยนต์ ซึ่งมีน้ำหนักที่เบากว่าขึ้นรูปอะลูมิเนียมปกติ แถมยังมีความแข็งแรงสูงกว่าอีกด้วย
อนาคตของการผลิตรถยนต์ จะถูกเปลี่ยนแปลงรูปแบบไป เมื่อมีการนำเทคโนโลยี 3D Printing เข้ามาใช้งานร่วมด้วย และศูนย์ Additive Manufacturing Campus แห่งนี้ จะเป็นส่วนประกอบสำคัญของ BMW Group ที่จะพัฒนารถยนต์แห่งอนาคตให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และยังเพิ่มตัวเลือกของการ customization ได้อย่างไร้ขีดจำกัด อย่างที่มีใน MINI Yours Customization เป็นต้น
