รถยนต์ MINI กับหน้าจอขนาดใหญ่บริเวณคอนโซลกลางของรถ ถูกเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานฟีเจอร์ “MINI Connected” มาตั้งแต่ปี 2010 ครับ แต่ล่าสุดในรถยนต์ MINI Hatch รุ่นใหม่ ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น ทาง MINI ก็ได้เปิดตัวแอปใหม่มารองรับ ในชื่อ MINI Connected XL Journey Mate ที่ใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม และวันนี้ผมจะรีวิวให้ชมกันครับ
รถยนต์ MINI ในเจเนอเรชั่นที่สาม ตั้งแต่รุ่น F56 (Hatch 3 ประตู) เป็นต้นมา จะมีรุ่นที่มีออปชั่นหน้าจอ MINI Connected XL ครับ หรือถ้าสังเกต ก็คือรุ่นที่มีหน้าจอกึ่งกลางคอนโซลขนาดใหญ่ 8.8 นิ้ว ที่จะสามารถใช้งานแอป MINI Connected XL Journey Mate ได้ครับ
วิธีการใช้งาน ก็ให้ดาวน์โหลดแอป “MINI Connected XL Journey Mate” จาก App Store (iPhone) หรือ Play Store (Android) มาติดตั้งบนสมาร์ทโฟนของเราก่อน จากนั้นให้เอาสาย USB เสียบเข้ากับพอร์ต USB ของรถยนต์ MINI รุ่นที่รองรับ และเปิดแอป MINI Connected XL Journey Mate ในสมาร์ทโฟนได้เลยครับ
MINI Connected XL Journey Mate
แอป MINI Connected XL Journey Mate ถูกพัฒนาขึ้นมาเพิ่มเติมจากแอป MINI Connected เดิมที่ยังมีให้ใช้งานอยู่ตามปกติ โดยเน้นเอาฟีเจอร์ของการเดินทาง นำทาง จัดทริป มาแยกทำเป็นอีกแอปต่างหาก และสงวนไว้ให้ใช้กับ MINI รุ่นที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ (Connected XL) เท่านั้น โดยฟีเจอร์หลักของมัน สามารถทำได้ดังนี้ครับ
ส่งพิกัดจากมือถือ
จากเดิม แอป MINI Connected หรือ แม้กระทั่งเครื่อง GPS นำทางต่างๆ ที่ติดกระจกรถยนต์ จะมีปัญหาวุ่นวายมากตอนที่เราจะพิมพ์สถานที่หรือจุดหมายที่เราต้องการจะเดินทางครับ กว่าจะพิมพ์ก็ลำบาก หาเจอบ้างไม่เจอบ้าง ไม่เหมือนกับตอนที่เราค้นหาจากแผนที่ในสมาร์ทโฟนเลย ดังนั้น MINI ก็เลยแก้ปัญหานี้ ด้วยการให้เราค้นหาจุดหมายจากในมือถือมันซะเลย โดยในแอป MINI Connected XL Journey Mate นี้ จะมีช่องให้เราค้นหาสถานที่ที่เราต้องการจะเดินทางไป (สามารถค้นหาชื่อสถานที่เป็นภาษาไทยได้ด้วย) และสามารถกด “Send to Vehicle” เพื่อส่งพิกัดของจุดหมายดังกล่าว ไปยังระบบนำทางในรถยนต์ได้เลยทันที
เมื่อกดส่งพิกัดจากมือถือมาที่รถแล้ว ที่หน้าจอของตัวรถ ก็จะแสดงพิกัด และชื่อสถานที่ พร้อมที่อยู่ขึ้นมาให้เรากด ‘Start guidance’ เพื่อเริ่มนำทางได้ทันทีเลยครับ ทำให้การค้นหาจุดหมายเพื่อนำทางผ่านระบบ GPS ในรถยนต์ MINI ง่ายขึ้น และเร็วขึ้นหลายเท่าตัวเลย ผมลองใช้แล้วถูกใจมากๆ
Traffic Radar
ภายในแอป MINI Connected XL Journey Mate บนหน้าจอของรถยนต์ จะมีเมนูที่เขียนว่า Traffic Radar อยู่ด้วยครับ โดยเมนูนี้จะแสดงสภาพการจราจรบนถนนเส้นต่างๆ ณ เวลานั้นบนแผนที่เลย โดยทับเป็นเส้นสีต่างๆ บนถนน ตามความหนาแน่นของการจราจรตอนนั้นๆ เช่น สีเขียวก็คล่องตัว สีส้มก็หนาแน่นหน่อย ส่วนสีแดงก็คือรถติดนั่นเอง ซึ่งข้อมูลสภาพการจราจร ก็จะถูกส่งมาแบบ real time ผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของโทรศัพท์มือถือเราครับ มีประโยชน์เพื่อใช้ในการหลบเลี่ยงเส้นทางที่รถติดได้ดีพอสมควร
นอกจากนี้ ตอนที่โทรศัพท์ไม่ได้เชื่อมต่อกับตัวรถ มันยังแสดงเป็น Traffic-O-Meter เพื่อบอกปริมาณความหนาแน่นของสภาพการจราจรโดยรอบตัวเราในรัศมี 10 กิโลเมตรด้วยครับ เหมือนกับบอกได้คร่าวๆ ตั้งแต่ก่อนเดินทางเลย ว่าโดยรอบเราตอนนี้รถติดมากน้อยขนาดไหน จะได้วางแผนได้
Car Finder
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากๆ ของ MINI Connected XL Journey Mate คือตอนที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับรถยนต์ครับ เพราะแอปตัวนี้สามารถจดจำได้ด้วยว่า ครั้งสุดท้ายที่เราเชื่อมต่อแอปกับรถยนต์ MINI นั้น ตำแหน่งที่ตั้งของรถอยู่ตรงไหน นั่นหมายความว่า มันสามารถบอกตำแหน่งที่จอดรถของเรา เพื่อใช้ในการหาที่จอดรถของเราได้นั่นเอง ฉลาดไม่เบาเลยจริงๆ แถมมันยังเชื่อมต่อเอาข้อมูลพื้นฐานของรถยนต์ MINI ของเรามาแสดงผลได้ด้วยครับ เช่น น้ำมันตอนนี้เหลืออยู่ในถังกี่ลิตร วิ่งได้อีกกี่กิโลเมตร รวมถึง รถของเราวิ่งไปแล้วทั้งหมดกี่กิโลเมตร ก็เอามาแสดงผลในแอปได้เลยแบบเท่ๆ
Trip Planner
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นของแอปนี้ คือความสามารถในการแพลนทริปล่วงหน้า โดยเราจะต้องใส่จุดเริ่มต้น (ซึ่งอาจเป็นตำแหน่งปัจจุบันก็ได้) และจุดหมายปลายทาง พร้อมวันที่และเวลาที่จะออกเดินทางครับ จากนั้นตัวแอปจะดาวน์โหลดแผนที่มาเก็บไว้แบบออฟไลน์ เพื่อที่มันจะสามารถนำทางและแสดงแผนที่ได้ แม้ในช่วงที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต เหมาะมากสำหรับการขับรถออกต่างจังหวัด หรือ เอาไปใช้ในการเช่ารถ MINI ขับที่ต่างประเทศ และเมื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับตัวรถแล้ว มันก็จะส่งพิกัดของจุดหมายปลายทาง ไปยังหน้าจอบนรถยนต์ เพื่อใช้ในการนำทางผ่านระบบ GPS ในรถยนต์ได้อีกด้วย พร้อมฟังก์ชั่นแจ้งเตือนต่างๆ ที่เราสามารถเพิ่มเข้าไปได้ ไม่ว่าจะเป็นโน้ต, แจ้งเตือนโทรหา หรือ แจ้งเตือนเมื่อใกล้ถึงเวลาที่จะต้องเดินทาง เป็นต้น
Head-up Display
รถยนต์ MINI ในรุ่นที่มีออปชั่น Head-up Display (HUD) และใช้งานร่วมกับระบบนำทางในรถยนต์ไปด้วย ก็จะได้ประโยชน์เต็มๆ จากข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอ HUD นี้เลยครับ เพราะมันสามารถนำทางได้ละเอียดมากๆ ชนิด turn-by-turn แถมในหลายจุดสามารถบอกได้ละเอียดถึงขั้นว่า เราจะต้องอยู่เลนไหน หรือ ออกจากวงเวียนด้านไหน รวมถึงมีข้อมูลเกี่ยวกับป้ายจราจร การจำกัดความเร็ว แสดงขึ้นมาให้ได้รับรู้กันแบบ real-time ในขณะขับขี่ ที่จะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น เพราะไม่ต้องละสายตาจากถนนมาดูที่หน้าจออีกด้วย
หน้าจอ Head-up Display ในรถ MINI นี่ให้ประสบการณ์ที่ดีมากครับ นอกจากลูกศรนำทางที่แสดงได้อย่างชัดเจนแล้ว มันยังใช้แสดงผลเกี่ยวกับระบบความบันเทิงใน MINI ได้ครบถ้วนอีกด้วย ทั้งการเปลี่ยนเพลง แสดงรายชื่อใน Contact List เพื่อใช้ในการโทรออก/รับสาย (เสียแค่แสดงผลภาษาไทยไม่ได้) โดยเราสามารถเลื่อนเมนูต่างๆ ได้จากปุ่มบนพวงมาลัยได้ครับ ใช้งานง่าย และปลอดภัยต่อการขับขี่อย่างมาก
สรุป
แอป MINI Connected XL Journey Mate ถือว่ามาเติมเต็มให้กับการใช้งานหน้าจอภายในรถยนต์ MINI รุ่นใหม่ได้สมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยครับ โดยเฉพาะการค้นหาสถานที่เพื่อมาใช้ระบบนำทาง GPS ในรถยนต์นี่สะดวกขึ้นหลายเท่า แค่ค้นหาจากสมาร์ทโฟน แล้วกดส่งพิกัดมาที่รถ ตัวระบบนำทางก็ทำงานได้ต่อเนื่องทันทีเลย รวมถึงยังมีฟีเจอร์ที่เสริมความน่าสนใจอีกหลากหลายอย่าง เช่น ฟีเจอร์การค้นหารถยนต์ที่จอดอยู่ หรือ ระบบการแสดงสภาพการจราจร เป็นต้น
นอกจากนี้ ถ้าได้ใช้งานกับรถ MINI ที่มีออปชั่น Head-up Display ก็ยิ่งใช้งานได้อย่างเต็มที่เลยครับ เพราะตัวระบบนำทาง สามารถมาแสดงที่หน้าจอใสๆ ของ Head-up Display ได้อย่างละเอียดยิบ ชนิด turn-by-turn หรือ แยกต่อแยก เลย ไม่มีหลงทางแน่นอน เท่าที่ผมลองใช้งานดู เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนมาดูหน้าจอที่คอนโซลกลางรถเลยนะครับ มันบอกทุกอย่างได้ในจังหวะเวลาที่เหมาะสมมาก จะปรับเสียง (จากปุ่มบนพวงมาลัย) เปลี่ยนเพลง รับสายโทรศัพท์ ก็แสดงผลขึ้นมาได้ชัดเจน เข้าใจง่าย ปลอดภัย ใช้สะดวกสุดๆ ครับ
เจ้าของรถยนต์ MINI ที่เป็นรุ่นหน้าจอใหญ่ (Connected XL) ก็อย่าลืมไปหาดาวน์โหลดแอป MINI Connected XL Journey Mate มาใช้เพิ่มเติม จากเดิมที่มีแอป MINI Connected อยู่แล้ว ก็จะยิ่งใช้งานได้สนุกขึ้นครับ ส่วนใครที่กำลังเล็งๆ จะถอย MINI คันใหม่อยู่ ผมก็ขอแนะนำให้พิจารณารุ่นหน้าจอ Connected XL รวมถึงรุ่นที่มีออปชั่น Head-up Display เอาไว้เป็นตัวเลือกครับ เพราะมันใช้งาน ขับขี่ได้สนุก และสะดวกกว่ามากมายจริงๆ :))
